letras.top
a b c d e f g h i j k l m n o p q r s t u v w x y z 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 #

letra de the trilogy (ไตรภาค) - rhymekhamhaeng

Loading...

[act one – robinhood] (0:00)

[intro]
“รูปนี้ในอดีตคือจอมโจรชื่อดัง ผู้ที่สร้างตำนานการโจรกรรมเพชรและอัญมณีล้ำค่า มูลค่านับพัน-พ-พ-พ-พ-พันล้านบาทในปัจจุบัน”
“เป็นคดีจากลักทรัพย์เนี่ย นำไปสู่ชนวนเหตุในการเกิดคดีฆาตกรรมนะครับ”

[verse 1: อารมณ์, rhymekhamhaeng]
ถึงจังหวะไปเข็นของ ไม่เสียเวลามาพูดพล่าม
สิ่งที่ก่อนจะเปื้อนเลือด ชิ้นแรกมันก็เป็นรูปภาพ
หลังจากลงสี บังเอิญมียมฑูตว่า
สิ่งปาดคือโลหิต ก่อนมีตะกั่วไปลูบหน้า
ชิ้นที่สอง เห็นเข้างาน เสียงทางขวาลึกเข้ามา
ยกมือตะโกนว่าพันล้าน “ผมขาย” ทุบโต๊ะ กูก้าวตาม
เห็นชิ้นสามถึงคราเศร้า คนอื่นเขาเห็นจากเบ้าตา
ไปใช่เพชรแต่เสือกเป็นหิน เลยมีตำรวจมาเข้าตาม
“เห้ย ไอ้สัส กูบอกมึงหยุดวิ่ง เดี๋ยวหยิบปืนมาเล็งแม่ง”
“หยุดทำไมให้โง่ ขอเร่งสปีดไปเต็มแข้ง”
กูรวบมึงลงไปกองที่พื้น บีบคอของมึงที่เกร็งแก้ม
ศอกซ้าย กะพริบตา ให้คราวหน้าเจอกูละเลงแน่
หลุดมาเห็นข่าวประกาศจับ
มีค่าหัวให้หลายล้าน จับเป็นหรือจะอนาจดับ (อืม)
หรือต้องขอบคุณพระเจ้าที่สอนให้ไม่ประมาทหนัก
ถึงคราวเอาเพชรไปขายที่พวกอยากได้จนปากสั่น
กูขับไปด่านก็ตาม มีเพชรที่ประกาย
ไปเจอตำรวจนายหนึ่งที่เข้ามาโบกแล้วบอกให้ขับไป
ใจสั่นเหมือนมันจะหล่นยันตับไต วูบวาบ
มึงเชื่อมั้ย ที่นัดหมาย กูเก็บทรงแล้วพูดว่า
“ผมขอคุณพันล้าน” “เจ็ดร้อย เราทั้งคู่ต้องเจ็บน้อย”
“ฟังนะ ไอ้เด็กน้อย ร้อยก็บอก” ผมหลอกฆ่า ลั่นเพี๊ยะ [?]
มีเสียงปังข้างเคียงหลังจากที่ปืนมันจ่อหน้า (ปัง!)
[interlude]
“คนร้ายเนี่ย สวนจังหวะที่บอกว่าตำรวจกำลังจับ กลับหลังตัวแล้ววิ่งหนี แล้วปรากฎว่าตำรวจเขาวิ่งไล่ตาม มีหลายคนมาก ตำรวจหนึ่งนาย สองนาย สามนาย ปรากฎว่ามีอยู่นายนึงครับ สับๆๆๆๆ แล้วไปล็อคคอไว้ได้ ดูภาพแล้วเหมือนเกมเลยทีเดียวฮะคุณผู้ชม ไปดูภาพครับ”

[verse 2: rhymekhamhaeng, อารมณ์]
อยู่ในเครื่องแบบตำรวจ วันนี้กูมาเฝ้างานประมูลของเก่าและแพง มีรูปนึงที่เข้าตา ah
แต่ถ้าได้มากูคงทาทับด้วยสีแดง ถึงจะแพงล้นก็ไม่พ้นรัศมีแปรง
อยู่ดีๆ คนก็ไม่พอใจ มีคนวิ่งไม่รอใคร กูจับได้แต่หลุด มันโดดขึ้นมอไซค์
ตำรวจคนอื่นก็ขับตามไปกันคนละคัน แต่กูกลับบ้านไม่สนโจรกรรม
วันต่อมากูไปตลาด มีประกาศใหม่ ใครพบเบาะแสหัวขโมยจะได้เงินและคฤหาสน์ใหญ่
มีคนเจอตัวจริงนึกว่าชิงโชค มันมาขายเพชรในตลาด กูยิงโป้ง
“ถ้ามึงมาช้ากว่านี้กูคงจะนอนเป็นกองศพ”
“ให้มึงลองยิงดิ กูอยากเห็นมึงลองหลบ ฮ่าๆๆ”
“บอกใครมันก็ไม่เชื่อว่าตามันโดนละครตบ”
และกูไม่ใช่ตำรวจ กูมาเฉลยในตอนจบ
คนซื้อเพชรก็นอนตาย เป็นอุบาย กูเพื่อนโจร
กูปล้นเงินที่มันจะซื้อเพชรจากกางเกงที่เปื้อนโคลน
แต่ที่คอมันนิ่ง สิ้นชีพจรในเลือดลม
อย่าให้ใครเขามาเห็น กูจับพยานมาเชือดวน
เอาเพชรไปคืนเจ้าของแล้วรับเป็นเงินตอบแทน
รวมกับค่าเพชร กูใส่ไว้ในกระสอบแดง
กูกับอารมณ์แบ่งกันไปคนละแขน
ขับตรงไปจอดสลัม เอาไปแจกคนละแสน มันเป็นแผนเว้ย ไอ้สัส
(thailand’s most blunted)

[act two – art of war] (3:34)
[verse 3: rhymekhamhaeng, usadax]
ah! ah! กูผูก tie ใส่ถุงมือหนัง หลังกูเอนยิง
ชิวสบาย นักเลงกลัว กางเกงตัวที่เข้ากับสูท เอาไฟมาจุด
ดูดใบจากคาบอยู่ในปาก เตรียมจะกู่ไปกราดยิง
เพราะอยากชิงรูปที่ไม่มีในตลาด
ทุกกระบอกไม่ห่างมือ ขาดคือบุหรี่มาดูด
เตรียมเอากระสุนออกจากปืน เหมือนฉากเดิมที่เคยผ่าน
แค่ครั้งนี้ต้องมี 4 ศพไปเกยฝั่ง
จัดฉากเป็นลางร้าย กูวางไว้ว่ามึงโดนยิงกระบาลย้าย
เลี้ยวไปทางซ้าย กูชิดชะลอจอดแล้วบอกให้รอก่อน
มึงลงไปเดินต่อ เดี๋ยวกูขับไปดับเครื่องที่หลังร้านแล้วปัดเสื้อ
เอื้อมกลับไปจับมีดคม ถนัดเวลาจะดับชีพคนกับปืนและรีบลง
ซอยมันเปื้อนโคลน เลือดลมมันสูบฉีด
ถูกผิดไม่รู้ แค่กลิ่นศพมันฉุนจมูกติด
เห็นประตูมันปิดอยู่ คงได้เวลาจะถูกบิด
เบือนหน้าไม่ตุกติก กูบุกหลีกจากหลังร้าน
พนักงานต้องหันคาง กูง้างมีดไปจิ้มคอมันนอนดิ้น
กลิ้งลงไปสิ้นลมเพราะโดนกูทิ่ม
ข่มพ่อครัวและแม่บ้าน นึกแค่ต้านไม่คิดจะห้าม
ข้างในชะล่าใจ ถีบประตู กูลากไก
ปืนยิงหนึ่งชีวิตที่พรากไป ไม่กลับมา คงหลับยาว
กลิ่นเลือดที่สาบคาวไม่อาจเดา
สามคนสร่างจากปากเมา ลุกมองไปรอบตัว
ชุดปืนกูครบมือ ผมบอกว่ามึงไม่รอดชัวร์

[chorus: rhymekhamhaeng & usadax]
เดินเข้ามาก็ยิงละเลงท้ายฉาก
ศพมึงนอนอยู่บริเวณไม้ห่าง
ไม่ได้คิดว่าตัวกูเองร้ายกาจ
เดะก็เอาลูกปืนประเคนซ้ายขวา
เดินเข้ามาก็ยิงละเลงท้ายฉาก
ศพมึงนอนอยู่บริเวณไม้ห่าง
ไม่ได้คิดว่าตัวกูเองร้ายกาจ
เดะก็เอาลูกปืนประเคนซ้ายขวา
[verse 4: rhymekhamhaeng, usadax]
ศพสองเป็นบทหลอน กูยิงคมปากเหมือนตบของ
คนสามก็เตรียมใจ เพราะความตายอยู่เพียงปลายมือ
กูกำหนดเอง โยกมึงหลบเอน ไม่พ้นระยะ ไม่นานก็หมดเวร
คนสี่แม่งวิ่งหนีเหมือนอยากให้พี่กูจบเกม
ชีวิตก็เหมือนกับบทเพลง กูยิงตามจังหวะเขบ็ด
เหยียบเบะกระบาล เฉียบเหล็กประจาน ไม่เก็บอาการ
เอาศพมามัดตั้งเรียงเหมือนนั่งเรียนข้างๆ เซียน
กูยิงทะลุไปปังเดียว มึงลงนรกไปนั่งเจียม
พบยมบาลกับดั้งเทียม
เพียงหน้ามึงเป็นเป้า เลือดกระเด็นไปเต็มภาพ
ไม่เล็งพลาด ยังวาดสีแดงตามที่วางแผน
กูตามมาเก็บจากงานประมูล จะเอาไปไว้ที่รามคำแหง
แขยงตา กูแหงนมอง กระชากสร้อยที่แขวนคอ
สี่ศพเหมือนแสนคม เพราะคมแหลม
แถมกระสุนกูเก็บงาน ก่อนแผลจะฉุน เอาถุงศพมาจับใส่
ทะลึ่งยกไปขึ้นรถเหมือนมึงเป็นยศประดับไหล่
เดินเก็บเป็นซากกองข้างหน้าพรมปู มันดูไม่น่าชม
เพราะรอยที่ลากคน ฆ่าเสร็จต้องเก็บกวาดเหมือนเศษผัก
เป็นคำสั่งที่เด็ดขาดจากพี่ชาย “กูบอกให้รีบทำ
เอาศพบางคนมาม้วนกับพรม” ก่อนสิ้นคำสะอาด
แต่มีแต่ความฉลาด จากที่กูยิงกระหน่ำกับพี่ในยามสงัด
กูซิ่งไปในกระบะ มันยังไม่เที่ยงคืน
เหมือนส่งของกะดึกแล้วนึกถึงศพที่โดนกูเปรี้ยงปืน
ขับรถคุยกับน้อง ไม่เครียดตึง

[chorus: rhymekhamhaeng & usadax]
เดินเข้ามาก็ยิงละเลงท้ายฉาก
ศพมึงนอนอยู่บริเวณไม้ห่าง
ไม่ได้คิดว่าตัวกูเองร้ายกาจ
เดะก็เอาลูกปืนประเคนซ้ายขวา
เดินเข้ามาก็ยิงละเลงท้ายฉาก
ศพมึงนอนอยู่บริเวณไม้ห่าง
ไม่ได้คิดว่าตัวกูเองร้ายกาจ
เดะก็เอาลูกปืนประเคนซ้ายขวา

[verse 5: rhymekhamhaeng, usadax]
จบภารกิจ กูแวะจอดที่ข้างคลองแสนแสบแล้วนั่งมอง usadax
กูแบกโยน ไม่แอบคน เห็นร่างมันลงแฉะ
จมน้ำไม่แตะโคลน รอยทิ้งให้คนแกะ
รอตะวันจนลงแหวก คงได้เห็นซากตอนแปดโมง
แค่ปลงกับรังโจร เปิดฟัง flow จากลำโพง
ไปแขวนรูปที่อยากได้ กูแหงนรูปแล้วจัดให้มีแสงธูป
เหมือนสวดศพแทนญาติกร
เป็นศิลปะเปื้อนเลือดจากสงครามในภาคต่อ

[act three – hidden logistics] (8:11)

[intro]
“สร้างความตื่นตระหนกพอสมควรนะครับ ตำรวจ สน. หัวหมากเข้าไปตรวจสอบศพของชายที่ลอยน้ำอยู่ในคลองแสนแสบ หลังห้างดังย่านบางกะปิครับ อยู่ที่ซอยรามคำแหง———–
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายอายุประมาณ 40 ถึง 45 ปี คาดว่าน่าจะถูกฆาตกรรมแล้วก็โยนศพทิ้งน้ำ”
(thailand’s most blunted)

[verse 6: rhymekhamhaeng]
ah แล้วเพชรที่โดนปล้น และคนที่โดนโป้ง ออกข่าวกันทนโท่
สรยุทธมาบอกกล่าว ศพแม่งจอดอ่าวเมื่อวาน (ยังไม่นาน)
คนที่ถูกประกาศป่าวไม่นาน
คนละเรื่องเดียวกัน กูจับมาเชื่อมสถานการณ์
กูลุกยืนเตรียมเก็บมีดกับลูกปืนสักชุดนึง (วู้ว)
ถึงเวลาจัดการแผนที่วางมาทุกคืน
เหยียบ clutch เหมือนเปลี่ยนเกียร์ สตาร์ทรถเกียร์ d
ซัดโค้งตัวเอียง เพลียไม่พัก ยกกูเซียน g ก็เกียร์ p อยู่ปากซอย
มองไม่เห็นหลักฐานหรอก ผู้ชนะแบบขาดลอย
โดนเปิดท้ายแล้วปาดทอยแตกหมด
กูกวาดตามองตอนที่แบกศพมาผ่านทางจร
อย่างคนที่แอบหลบคืออาชญากร
มีสร้อยที่ห้อยคอโชว์ออกมา โทรไปบอกนาย
แม่งอยู่กันเยอะ ถ้าเปิดก็คงไม่ปลอดภัย
ปล่อยมันพ้นซอย ยืนคอยไปก่อนไม่บอกใคร
ก้มมองเตรียมปะทะกับโจร เอาไปโยนในบ่อทราย

[chorus: bbreezy]
เดี๋ยวมึงเจอกูจะจะ จะถึงเวลามาล่าโจร
มีแต่รอย (pow pow) สิ้นชีวิตราบเป็นระนาบตรง
จะได้รู้ว่าค่าคนมันแค่ไหน
กูว่าทั้งหัวน่าโดน ตอนกูสั่งมึงหน้าตรง
เดี๋ยวมึงเจอกูจะจะ จะถึงเวลามาล่าโจร
มีแต่รอย (pow pow) สิ้นชีวิตราบเป็นระนาบตรง
จะได้รู้ว่าค่าคนมันแค่ไหน
กูว่าทั้งหัวน่าโดน ตอนกูสั่งมึงหน้าตรง

[verse 7: bbreezy, rhymekhamhaeng]
สภาพคงไม่น่ามอง มึงลงไปนอนพะงาบ น้ำหนองก็นอง
สะบ้าเป็นหมอน ต้องนอนไปข้างก็ชักจะหลอน
กูซัดสมอง อาก้า กูชักมาสองนัด
สนอง งัดตะขอ กระชากจี้
2 1 0 สิ้นใจเป็นคู่อยู่ข้างขี้
7 8 9 ข้ามไปปากซอย
เอื้อมตีนเหยียบแตะ เข้าข้างแล้วผ่านคลอง
ไปถึงจุดนัดพบ โชว์หลักฐานจากคอ
ถึงเวลาฉลอง เล่าผลงานให้ฟังเป็นฉากตอน
ถึง bbreezy มึงดีมาก กูลากมานั่งกับอารมณ์และ usadax
แดกกันซะสนุก เอาปูมาแกะจนพุงจะแตก เริ่มชักจะจุก
สรุปต้องพักเพราะซัดไม่หยุด สักพักก็นับจำนวนไม่ถูก
นั่งกันอยู่อย่างนั้นทั้งวัน ดูท่าจะกู่ไม่กลับ (ตู้ม!)
เสียงระเบิดจากคนที่ปองร้าย “เห้ย มึงจำไว้”
กูปัดท้าย ย้ายกลับไปนอน คล้ายที่จะจับ ไร้ทางที่จะฝ่า
มีสายเข้า แต่สายลับแม่งหายวับในตอนท้ายว่ะ (กริ๊งงงง)

[outro: bbreezy]
เดี๋ยวมึงเจอกูจะจะ จะถึงเวลามาล่าโจร
มีแต่รอย (pow pow) สิ้นชีวิตราบเป็นระนาบตรง
จะได้รู้ว่าค่าคนมันแค่ไหน
กูว่าทั้งหัวน่าโดน ตอนกูสั่งมึงหน้าตรง (ปัง!)

letras aleatórias

MAIS ACESSADOS

Loading...